วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การเลี้ยงไก่ชน อาหารไก่ชน

อาหารไก่ชนที่เหมาะสมกับไก่ชน แรกเกิด - 3เดือน


อาหารไก่ชน ที่เหมาะสมกับไก่ชน  แรกเกิด - 3 เดือน สำหรับ ไก่ชนแรกเกิดถึง3เดือนให้กินอาหารไก่เล็กผสมยาขยายโครงสร้างยูซีแฟค หลัง3เดือน-10เดือนผสมเองสูตรมีดังนี้ 1.รำละเอียด 2 กก. 2.ปลายข้าวหรือบ้านเราเรียกข้าวเปี๋ยนนะ 2 กก. 3.หัวอาหาร เบอร์ 752 2กก.ผสมให้เข้า


สูตรเร่งโครงสร้างของไก่ชนแม่สะเรียง 
1.แรกเกิด จัดไป อาหารหมูนม  ในปริมาณที่พอเหมาะ
2.เมื่อไก่ได้สามเดือน อาหารหมูนม +รำละเอียด+วิตามิน+แคลเซียม เพิ่มเร่งโตเพราะช่วงนี้กำยืดความสูง
3.พอได้ 6 เดือนก็หันมาให้ข้าวเปลือก กล้วย เนื้อย่าง เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และไม่ให้อ้วนเกินไป
4.เข้าเดือนที่ 7 ไก่เริ่มสู้ ให้เลี้ยงแบบปรกติ 

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ข้อดีของ การเลี้ยงไก่ชน ไก่ลูกถ่าย หรือเป็นไก่ที่มีอายุดีแล้ว

การเลี้ยงไก่ชน ข้อดีของ ไก่ลูกถ่ายหรือเป็นไก่ที่มีอายุดีแล้ว


การเลี้ยงไก่ชน ไก่พม่าแม่สะเรียง

จะอยู่ประมาณ 16 เดือนขึ้นไป
ซึ่งเป็นวัยที่กำลังมีความฟิต คึกคะนอง
กระดูกดี ความอดทนดี หัวจิตหัวใจดี
ไม่กลัวไก่หนุ่มหรือไก่ถ่าย
การเลี้ยงไก่ชนไม่ว่าจะถ่ายแหลมหรือถ่ายใหญ่เลี้ยงแบบเดียวกัน ให้ดูว่าขนเริ่มจะเต็มก็เอามากล่อมได้เริ่มทำเหมือนไก่หนุ่ม จากข้อ 1 เลย เพื่อฟื้นฟูลีลา แต่ให้กาดแดดหนักกว่าหน่อย และเพิ่มการปล้ำให้ได้ 13-15 ยก ก่อนออกชน จะชนได้ 4-6 ยก
เมื่อไก่ถ่ายใหม่ ไม่ควรใจร้อนนำออกมาชน ผมเห็นบ้างคนไก่ยังมีหลอด (บั่ว) ที่คออยู่เลย ก็รีบนำไปชนแล้ว นี้คืนสาเหตุไก่ผิดฟรอม ขนาดนักถึงขั้นแพ้เลยก็มี

ไก่พม่าแม่สะเรียง

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สมุนไพรการเลี้ยงไก่ชนต้มอาบไก่ชน

สมุนไพรต้มอาบการเลี้ยงไก่ชน ไก่พม่า

การเลี้ยงไก่ชนไก่พม่าแม่สะเรียง

1.ตะไคร้ เอามาทั้งต้นและเหง้า เพราะตะไคร้จะช่วยขับลมแก้โรคทางเดินปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ปวดหลัง ขับเหงื่อและช่วยเจริญอาหาร
2.ใบส้มป่อย ต้มน้ำแล้วดื่มกินจะแก้ขับเสมหะเป็นยาถ่ายอ่อนๆ ฟอกโลหิต แก้โรคตา โรคผิวหนัง กราดรังแค ถ้าเป็นแผลจะช่วยรักษาแผลได้ด้วย
3.ขมิ้นชัน ใช้แก้โรคตาบวม ตาแดง ขับกลิ่นสกปรกในร่างกาย แก้ผดผื่นคัน สมานแผล แก้ท้องร่วงและยังช่วยกำจัดไรในไก่ชนอีกด้วย เพราะไรจะกัดกินเลือดไก่ทำให้ไก่ไม่สมบูรณ์ แก้โรคผอมแห้งของไก่ก็ได้
4.ใบมะขามเปรี้ยว จะช่วยในการขับเลือดลมในลำไส้ ฟอกโลหิต แก้โรคบิด ขับเสมหะ แก้ท้องผูก แก้กระหายน้ำ แก้หวัดคัดจมูกในไก่ชน
5.บอระเพ็ด ช่วยแก้พิษฝีดาษไก่ แก้ไข้พิษ หรือแก้โรคแทรกซ้อนของไข้ทรพิษ บำรุงกำลัง ทำให้เจริญอาหาร ทำให้เลือดเย็น และยังแก้ร้อนดับกระหายน้ำได้ด้วย
6.ขมิ้นอ้อย แก้โรคตาแดง ตาแฉะ แก้มะเร็งในรังไข้ มะเร็งในต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งต่อมไธรอยด์ รักษาอาการของเลือดคั่ง เลือดลมหมุดเวียนไม่สะดวก
7.ไพล เป็นตัวยาที่แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำในไก่ เมื่อซ้อมมาใช่ไพลจะช่วยรักษาสมานแผลภายนอก ช่วยรักษาผิวหนังและบาดแผลที่เกิดจากคู่ต่อสู้ช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทั้งยังเป็นยาถ่ายพยาธิภายในได้อีกด้วย หาสมุนไพรได้ครบทั้ง 7 อย่างๆละเท่าๆกัน นำมาหั่นแล้วใส่ผ้าขาวบาง(ผ้ามุ่ง) ห่อแล้วนำใส่ลงในหม้อใส่น้ำพอเหมาะตั้งไฟต้มประมาณ 3-4 ชั่วโมง รินเอาเฉพาะน้ำมาใส่ลงในภาชะสำหรับจะกราดน้ำไก่ให้นำสมุนไพรไก่(อย่าร้อน)จึงนำไปกราดน้ำไก่ชน สมุนไพรที่รินน้ำออกมาแล้วอย่าทิ้ง ต้มไปอีกโดยใส่น้ำลงไปต้มอีกอย่างเดิม
การเลี้ยงไก่ชน

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ยาไก่ชน

ยาไก่ชน ไก่พม่าแม่สะเรียง 
 


สูตรที่ 1 ตะไคร้ ไพล กระชาย เนื้อปลาช่อนย่างแห้ง หัวแห้วหมู บอระเพ็ด เกลือ นำส่วนทั้งหมดทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ มาโขลกรวมกันให้ละเอียดตากให้แห้ง แล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำตาลให้ได้ที่ นำไปตากแดดให้แห้งอีกครั้งแล้วจึงคลุกเคล้า กับน้ำผึ้งให้เหนียวนำไปบรรจุในโหลแก้วปิดฝาให้แน่น เวลาจะใช้นำออกมาปั้นเป็นลูกกลอน ปั้นให้ไก่กินทุก เช้าวันละ 1 เม็ด จะช่วยบำรุงกำลัง และช่วยย่อยอาหาร

สูตรที่  2 กระชาย พริกไทย ตะไคร้ ดีปลี ตำให้แหลก นำมาใส่ท้องปลาช่อนจนเต็มท้อง นำปลาช่อนมาปิ้งให้สุกส่งกลิ่นหอม เอา เนื้อปลาช่อนทั้งตัวตำหรือโขลกให้แหลกผสมกับน้ำฝึ้งเดือนห้าปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กิน นอกจากจะช่วยบำรุงกำลังแล้วยังทำให้ปีกไก่แข็งแรงและบินสูง

สูตรที่   3 ใช้บอระเพ็ด กระเทียม ปลาช่อน นกกระจอก ยาดำ หัวแห้วหมู พริกไทย น้ำผึ้ง ผสมทุกอย่างเท่าๆ กันบดให้ละเอียด ผสมเข้ากับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กินก่อนนอนทุกวันห้ามใช้หน้าร้อนสูตรนี้จะทำให้ไก่แข็งแรง

สูตรที่  4 ใช้หญ้าแพรกบดให้ละเอียดตากลมพอแห้งหมาดๆ ผสมกับนมข้นปั้นเป็นลูกกลอนให้ไก่กินก่อนนอน ทำให้แข็งแรงและบินเก่ง

สูตรที่   5 ใช้บอระเพ็ดหั่นเป็นบางๆ แช่ลงในน้ำฝึ้งเดือนห้าให้ไก่กินทุกวันช่วยให้ไก่เจริญอาหารระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น

สูตรที่   6 หัวไพล เจตมูลเพลิง ผักคราดหัวแหวน อย่างละเท่าๆ กันตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งเดือนห้าปั้นเป็นลูกกลอนให้กิน

สูตรที่   7 ใช้ข้าวเหนียวเผาจนดำตำกับพริกสุกหอยขมใส่ปลาป่นและน้ำอ้อยปั้นเป็นลูกกลอนให้กิน ช่วยให้ไก่มีกำลังอดทนเป็นเลิศ

สูตรที่  8 ให้ไก่กินลูกเขียด โตพอประมาณ หรือลูกหนูตัวแดงๆ ไม่มีขน จิ้งจก หรือลูกปลาวันละตัว ทำให้ไก่แข็งแรง

สูตรที่   9 เหง้ากระชาย พริกไทย นกกระจอกย่าง อย่างละ 1 ส่วน ปลาช่อนย่าง 3ส่วน บดผสมให้เข้ากัน เติมวิตามิน เก็บเอาไว้ในตู้เย็นปั้นให้กินวันละก้อน

สูตรที่  10 หอยขมสด หรือหอยโข่ง เผาไฟ แกะเนื้อให้กิน จะช่วยบำรุงกำลังเพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่ไก่ ผู้เลี้ยงสะดวกที่จะใช้ตำรับไหนก็คัดเลือกใช้ได้ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นตัวยาที่หาง่ายหาได้ในท้องถิ่นเท่านั้น

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เทคนิคขั้นเทพ การแก้เกม แพ้ทางไก่ชน

เทคนิคการแก้เกม แพ้ทางไก่ชน


1. ไก่พม่ายืนหยิบแทงจะแพ้ทางไก่ชนเชิงไทย
2. ไก่พม่าโยกหัวล่างขยับเตะจะแพ้ทางไก่พม่าเดินจิ้มหยิบหน้าหงอนแทง
3. ไก่พม่าเดินจิ้มหยิบหน้าหงอนแทงจะแพ้ทางไก่พม่าโยก หลุด ลอด ถอด ถอย แข็งหน้าจัดๆ
4. ไก่พม่าเดินจิ้มหยิบหน้าหงอนเตะจะแพ้ทางไก่ไทยล็อก+ไก่มัด
5. ไก่ป่าก๋อยล็อก มุด มัด หรือเอี้ยวตีจะแพ้ทางไก่พม่าโยก หลุด ลอด ถอด ถอย ขยาย แข้งหน้าจัดๆ
6. ไก่ป่าก๋อยล็อก มุด มัด บด บี้ ขยี้ กัดแหลกจะแพ้ทางพวกไก่ม้าล่อวิ่งล่อตบ ทั้งสั้น ยาว
7. ไก่พม่าพวกวิ่งล่อตบ จะแพ้ทางไก่พม่าถอยตี ไม่วิ่งตาม ดักจังหวะเตะ
8. ไก่พม่าโยก ลอด ถอด ขยาย แข้งหน้าจัดจะแพ้ทางไก่ชนเชิงเดียวกันแต่จะเป็นตัวไหนใจเย็นกว่า
9. ไก่ชนหมดทั้งหลายนี้จะแพ้ทางเจ้าของไก่ชน ที่ใจร้อน ถือว่าไก่ชนกรูแน่ ชนแหลกเล็กใหญ่ไม่สนขอให้ได้ชนไว้ก่อน

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ลักษณะไก่ชนแม่สะเรียงที่ดี ตีแม่น ตีแพง

ลักษณะไก่ชนแม่สะเรียงที่ดี ตีแม่น ตีแพง


ไก่พม่าแม่สะเรียงที่เก่งกาจส่วนมากจะมีรูปหน้าที่เรียวเล็ก คางรัด แววตาดุดันแสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความเจ้าเล่ห์ภายในตัว ใบหน้าจะบางไม่หนาแสดงให้เห็นว่าไม่ค่อยเจ็บตัวเท่าไหร่ในการปล้ำคัดเพราะจะเป็นฝ่ายใช้ลีลาหลอกตี ดักตีอยู่ตัวเดียว บางตัวชนะมา 3 ไฟท์ ขนอุยที่หน้ายังอยู่ครบ ขนหัวยังไม่ยับ ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ส่วนไก่พม่าแม่สะเรียงที่ไม่ค่อยเก่งจะมีใบหน้าที่หนา ขนหัวยับเยิน หรือ หัวโล้น ขนาดที่ยังไม่ได้ชนเลยสักไฟท์ แสดงว่าเป็นไก่ที่หลบเลี่ยงไม่เก่ง ไม่ค่อยฉลาด  ลีลาไม่ค่อยดี  หรือ เป็นไก่ที่ช้าเกินไป

อาบน้ำไก่ชน แม่สะเรียง

อาบน้ำไก่ชนแม่สะเรียง

นำไก่ชนแม่สะเรียง ที่ต้องการออกมาดูข้าวในกระเพาะไก่ชนว่ามีอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีข้าวเลยต้องให้ไก่ชนแม่สะเรียงกินข้าวเปลือกประมาณ ¼ กระเพาะ ถ้าไม่มีข้าวเมื่อกราดน้ำไก่จะหนาวมาก เพราะในกระเพาะไม่มีอะไรที่จะเผาผลาญความร้อนให้แก่ร่างกายไก่เลย ดังนั้นในการกราดน้ำไก่ชนจึงจำเป็นต้องมีข้าวเปลือกในกระเพาะพอประมาณจากนั้น นำเอาถุงพลาสติกมาสวมที่ปีกทั้งสองข้างเพื่อป้องกันน้ำเปียกปีกไก่ ถ้าน้ำเปียกปีกไก่ชนจะทำให้ใยปีกไม่แตกเมื่อใยปีกไม่แตกไก่ป่าก๋อยจะบินไม่ดี เพราะปีกไม่กินลมหรือกินลมน้อยลงจึงทำให้บินไม่สูง ขั้นที่ 2 จะกราดน้ำตรงไหน
ก่อนก็ได้ เช่น ที่สร้อยคอ ขนทรงอก หรือใต้ปีก แต่ต้องกราดน้ำโดยการใช้ผ้าเช็ดตามขนไก่ชน  อย่าย้อนขนไก่ชนเด็ดขาดเพราะจะทำให้ขนไก่หักได้ สำหรับที่ไม่ให้เปียกเด็ดขาด คือ ปีกและหางไก่ แล้วนำผ้าแห้งมาเช็ดอีกทีหนึ่งจนขนไก่แทบจะแห้งอย่าปล่อยให้น้ำแฉะหยดเด็ด ขาด การเด็ดด้วยผ้าแห้งเท่ากับการนวดกล้ามเนื้อไก่ไปในตัวด้วย ขั้นที่ 3 นำไก่ที่เช็ดด้วยผ้าแห้ง(พอหมาดๆ) ไปนามกับกระเบื้อง การนามกระเบื้อง จะทำให้หนังไก่หนาและเหนียวมากยิ่งขึ้น โดยนำกระเบื้องมาเผาไฟให้ร้อน(สมัยนี้ใช้กระเบื้องที่ทำขายทั่วไปของร้ายขาย อุปกรณ์ไก่ชน) หลังจากนั้นนำผ้ากราดน้ำไปชุบน้ำแล้วบีบน้ำออกไปนำคลึงลงบน
แผ่นกระเบื้องที่ ร้อนนำมาทดลองกับขาของเราดูก่อนว่าร้อนเกินไปหรือไม่ ถ้าพอดีแล้วก็นาบลงบนหน้าไก่ คอ ปีก ปั้นขา จนทั่วทั้งตัว ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่กราดน้ำจะทำให้หนังไก่หนาและเหนียวขึ้นทุกที ขั้นที่ 4 นำไก่ที่ลงกระเบื้องแล้วไปลงขมิ้นที่ผสมกับปูน ควรนำไก่ลงไปทั้งตัวโดยใช้แปรงสีฟันจุ่มขมิ้นที่ผสมกับปูน แล้วแปรงไปตามขนไก่ชน(อย่าทวนขนไก่เด็ดขาดเพราะขนไก่ชนจะหักได้) ทุกๆเส้นขนจนทั่วทั้งตัว ยกเว้นปีกไก่กับหางไก่ป่าก๋อย ครั้งที่ 2หรือครั้งต่อๆไปไม่ต้องลงทั้งตัวก็ได้ลงเฉพาะส่วนที่ไก่ชนแม่สะเรียงจะถูกคู่ต่อสู้ตี เท่านั้น เช่น หน้าอก ปั้นขา ปีก แล้วถอดถุงพลาสติกออกนำไก่ชนไปใส่สุ่มตากแดดพร้อมกินข้าวเปลือกที่เตรียมไว้ ให้จนอิ่มเป็นการเสร็จสิ้นการกราดน้ำไก่ชน ข้อควรระวัง เครื่องมือในการกราดน้ำ เช่น ผ้าเช็ดน้ำไก่ป่าก๋อย  ขนไก่ที่ใช้ปั่นคอแต่ละตัวอย่าใช้ปนกัน เพราะจะทำให้ติดโรคกันได้หรือทางที่ดีควรป้องกันไว้ คือ ต้มทุกครั้งหลังใช้จะดีมาก
ไก่ชนแม่สะเรียง

เกล็ดพิฆาต แข้งไก่ชนแม่สะเรียง

เกล็ดพิฆาต แข้งไก่ชนแม่สะเรียง


แข้งไก่ชนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี้คืออาวุธหลัก เรามาดูลักษณะแข้งไก่ชนแบบต่างๆครับ
1.แข้งกลมเล็กดั่งเส้นหวาย
เป็นแข้งตีเจ็บปวดมาก มักฝากแผลครูไว้กับคู่ต่อสู้เสมอทั้งๆดูแล้วไม่ค่อนน่ากลัว แข้งกลมเล็กมาจากข้อเข่า แล้วค่อยๆเรียวโตจรดโคนนิ้วประกอบด้วยเกล็ดแข้งอีกด้วย
2.แข้งกลมใหญ่
เป็นไก่ลำหักลำโค่นรุนแรง ถ้าตีโดนจังๆทำให้คู่ต่อสู้บอบช้ำ มักตีลำตัว แต่ตีช้า ไม่ค่อยนิยมนัก
3.แข้งเหลี่ยม
เป็นเหลี่ยมมองเห็นชัดเจน มีทั้งเหลี่ยมใหญ่ เหลี่ยมเล็ก ถ้าเป็นไก่แข้งเหลี่ยมเล็กนี่เรียกว่า “แข้งคัด” ดี งาม ถ้าเหลี่ยมใหญ่ไม่ดีช้า อืดอาด”ต้ม”
4.แข้งยาว แม่ไม่ผิดปกติ แต่ดูแล้วยาวโย่ง มักตีไม่แม้น “การที่จะดูไก่ชนตัวไหนตีแม่นไม่แม่น ให้สังเกตเวลาที่ไก่ยืนชะเง้อ ยืดตัวเต็มที่ ถ้าแข้งยืดขนานไปกับข้อเข่าและปั้นขา ทายว่าไก่ตัวนั้นตีแม่น ถ้ายืดตัวออกแล้วข้อขายังงออยู่ ไก่ตัวนั้นตีไม่แม่น
5.แข้งนิ่ม
เป็นแข้งพิเศษ ตามปรกติไก่ทุกตัวต้องมีแข้งและเกล็ดแข็ง แข้งนิ่มเวลาบีบจะนิ่มเหมือนกล้ามเนื้อ ถ้านำไปตีจะตีเจ็บปวดแสนสาหัส
6.แข้งขน
ึ7..แข้งไม้ดัด หรือแข้งคัด จะมีลักษณะคล้ายกับไม้ดัด ไม้คมแฝก ด้านข้างแข้งจะออกเป็นเหลี่ยมเป็นมุม แข้งจะโตเสมอต้นเสมอปลายทรงเหลี่ยม ผิวแข้งจะขรุขระไม่ราบเรียบ เกล็ดซ้อนเผยอขึ้น เป็นไก่แข้งสวยรองจาก แข้งลำหวาย เป็นแข้งที่ตีไก่เจ็บเช่นกัน
ไก่อูพันธุ์แท้ไม่มีขนที่แข้ง ถ้ามีแสดงว่า ไก่ตัวนั้นมีเลือดพันธุ์ตะเภาปนอยู่ ไม่เหมาะมาทำไก่ชนเว้นเสียแต่มีส่วนอื่นดีเช่นกัน


ทีเด็ดเกล็ดพิฆาต(ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

หน้าแข้ง คือ ส่วนของแข้งด้านหน้า ตั้งแต่ข้อขาลงมาถึงปลายนิ้วทั้งสาม คือ นิ้วกลาง นาง และชี้ ของไก่ หน้าแข้งจะประกอบด้วยเกล็ดต่างๆ เรียงเป็นแถว อาจจะเป็นหนึ่งแถว สองแถว สามแถว อาจจะตรงกันตลอดหรือไม่ก็ได้ ถ้าเรียงตรงกันตลอดเป็นระเบียบถือว่าดี แบ่งออกได้ ดังนี้ คือ
 เกล็ดด้านหน้าเรียงกันเป็นระเบียบหนึ่งแถว ถ้าเรียงกันตรงลงมาถึงข้อเท้า เรียกว่ากำไลปัดตลอด ถ้าเรียงกันเฉียงลงมาถึงข้อเท้าเรียกพันลำ ถือว่าดี
ประเภทเกล็ดกำไล คือ เกล็ดคาดเต็มแข้งไก่ด้านหน้าจากด้านซ้าย ไปข้างขวา เป็นเกล็ดเดียวไม่มีรอยแตกหรือรอยขาด เกล็ดกำไลที่สำคัญและมีอิทธิฤทธิ์พิษสง มีอยู่ ๗ ชนิด คือ



1.กำไลปัดตลอด คือเกล็ดกำไลคาดตรงตลอดจากข้อขาถึงข้อเท้าแบบเกล็ดนกเอี้ยงเป็นเกล็ดกำไลที่สวยงามมาก มีอิทธิฤทธิ์พิษสงตีเจ็บปวดลึกแบบโดนฟาดด้วยไม้กระบอง เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่าย ไก่กำไลปัดตลอดมักจะตีลำตัวได้เจ็บ ถ้าขึ้นหัวได้จะตีให้แพ้เลย



2.กำไลพันลำ คือ เกล็ดกำไลคาดเฉียงตลอดจากข้อขาถึงข้อเท้า แบบลายกระบองยักษ์ เป็นเกล็ดกำไลที่สวยงาม พอๆกับกำไลปัดตลอด มีอิทธิฤทธิ์พิษสงแบบไม้กระบองยักษ์ ตีเจ็บปวดลึก เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่าย เช่นเดียวกับเกล็ดกำไลปัดตลอด
3.กำไลหนุมานนั่งแท่น คือ เกล็ดกำไลคาดตรงหรือเฉียงจากข้อขาบนปกลงมา ๓ เกล็ดติดๆกัน ถ้ามี สองข้างยิ่งดี เรียกว่าหนุมานนั่งแท่น หรือหนุมานครองเมือง เป็นเกล็ดกำไลที่สวยงามอีกเกล็ดหนึ่ง มีอิทธิฤทธิ์พิษสงแพ้ยาก เชื่อว่าแม้ถูกตีจนหักจนชักก็สามารถฟื้นคืนกลับมาเอาชนะได้ เป็นไก่อึดทนแข็งแรงเก็บอาการได้ดี
4.เกล็ดเหน็บเกล็ดแตก มีเกล็ดเล็กๆขึ้นเหน็บหรือแซมที่หน้าแข้งหรือนิ้ว หรือมีรอยแตกรอยผ่าที่เกล็ดหน้าแข้ง หรือนิ้ว ถือว่าดี เช่น
5.เกล็ดเหน็บหรือแตกหน้าเดือย คือเกล็ดเล็กที่ขึ้นเหน็บซ้อนใต้เกล็ดหน้าบริเวณหน้าเดือย ถ้ามีที่ขาทั้งสองข้างถือว่าแทงยับ ไก่เหน็บหน้า เดือยถ้าที่มีที่ขาข้างเดียว เรียกว่าเกล็ดขัด และถ้ายิ่งหงอนไม่เลยลูกตา เชื่อว่าไม่คุ้มลูกตาข้างเหน็บ ถ้าปล้ำชน ตาข้างที่เกล็ดขัดมักบอด
6.เกล็ดเหน็บหรือแตกนิ้วใน(นิ้วชี้) เรียกว่า เหน็บใน จะเป็นไก่ตีเจ็บตีหักตีชัก ถ้าเหน็บสองข้างๆละหลายเกล็ดตรงกัน ถือว่าดีมาก ตีหนักตีหักตีชักให้คู่ต่อสู้แพ้เลย ถ้าเหน็บสองข้างไม่ตรงกัน จะตีหักตีชักต้องตีหลายครั้งคู่ต่อสู้จึงจะแพ้ ถ้าเหน็บข้างเดียวจะตีไก่เจ็บมีหักมีชัก แต่ไม่ถึงกับวิ่งหนีแบบชนิดแรก แต่ถ้าเกล็ดแตกไม่ถึงกับเหน็บหรือซ้อน ถือว่าเป็นไก่แข้งคม ตีแตกเกิดบาดแผล มีหักเล็กน้อย
7.เกล็ดเหน็บหรือแตกบริเวณข้อนิ้วกลาง เรียกขุนแผนสะกดทับ จะเป็นไก่ตีไก่หยุดหมด เก่งสะกดคู่ต่อสู้ได้
8.เกล็ดแตกบริเวณนิ้วทุกนิ้วทั้ง ๘ นิ้ว กี่เกล็ดก็ได้ เรียก จักรนารายณ์ เป็นไก่ตีหักตีชัก ทำลายคู่ต่อสู้ได้ง่ายๆ
9.เกล็ดแตกปลายนิ้วทุกนิ้วทั้ง ๘ นิ้ว เรียก ผลาญศัตรู จะเป็นไก่ตีเจ็บมาก มีหักมีชักถึงแพ้พิการหรือตาย จะแก้ปราบไก่ได้ทุกตัว จะไม่ยอมแพ้ไก่ใด ถ้าแตกไม่ครบ ๘ นิ้ว จะเป็นไก่ตีเจ็บตีหัก แต่ไม่ถึงตาย
10.เกล็ดก้อยแตกทุกเกล็ดทั้งสองก้อย เรียก ไชบาดาล จะเป็นไก่ตีเจ็บปวดมาก มีหักมีชัก อาจพิการหรือตายได้ เช่น เกล็ดผลาญศัตรู ถ้าแตกปลายนิ้วเข้ามา หรือจากเกล็ดติดเล็บมาข้างละ ๓ เกล็ดถือว่าดีแล้ว อย่างน้อยต้องให้เกล็ดปลายสุดติดเล็บแตกถึงจะดี
11.เกล็ดเหน็บ-เกล็ดแตก ทั้งสองอย่างนี้ บางตำราว่าเหมือนกัน แต่ท่าน อาจารย์พน นิลผึ้ง ได้ให้ทัศนะว่าน่าจะแตกต่างกัน เกล็ดเหน็บเป็น เกล็ดเล็กๆขึ้นซ้อนอยู่ใต้เกล็ดใหญ่อื่นๆในแข้งไก่ ส่วนเกล็ดแตก คือ เกล็ดที่มีรอยแยกแตกออกเป็นส่วนๆ แบ่งเกล็ดนั้นออกเป็นสองหรือสามส่วน
12.ท้องแข้ง คือ ส่วนของแข้งที่อยู่ด้านหลังตรงข้ามกับหน้าแข้ง ตั้งแต่ข้อขาตรงน่องสิงห์ลงมาถึงปลายนิ้วก้อย ท้องแข้งที่ดีจะต้องอิ่ม นูน เต็มไม่ฟีบแบนหรือโบ๋
13.เกล็ดบัวแข้งหรือเกล็ดพลายน้ำ จะขึ้นจากข้อขาบนตรงน่องสิงห์เรียงลงมาตามสันหลังแข้ง ถ้าเรียงตรงแบบปูกระเบื้อง ถือว่าธรรมดา ถ้าเรียงซ้อนกันลงมาแบบมุงหลังคา ถือว่าดี ถ้าเรียงหงายขึ้นถือว่าธรรมดา ถ้าเรียงคว่ำถือว่าดี ถ้าเรียงลงมาไม่ถึงเดือยหรือแค่ครึ่งแข้งกว่าถือว่าไม่ดี เรียกบัวขาด หรือถอดหัวหนี จะถอดใจง่าย เวลาชน ไม่อดทน ถ้าเกล็ดบัวเรียงลงมาเลยเดือยมากๆ ถึงถุงเงินถือว่าดี อดทน แพ้ยาก ถ้าเกล็ดบัวหลังแตก ถือว่าดี แข้งคม ตีไก่ได้เลือด มีหักมีชัก
14.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด คือ เกล็ดด้านหลังแข้งตรงท้องแข้งที่ขึ้นเรียงต่อจากเดือยขึ้นไปหาข้อขาบน ถ้า
15.เกล็ดเต่งยาวเรียกเม็ดข้าวสาร ถ้าเกล็ดเต่งกลมเรียกว่าเม็ดข้าวโพดถือว่าดี ถ้าเกล็ดเม็ดข้าวสารหรือเม็ดข้าวโพดลีบแบน เรียกอันบอด ถือว่าไม่ดี
16.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด ขึ้นต่อจากเดือยเรียงตรงขึ้นไป ถึงข้อขาบนได้ ๑๒ เกล็ด ถือว่าสุดยอด เรียกข้าวสารพระอินทร์ จะตีไก่เจ็บปวดมาก และไม่แพ้ใคร ถ้าเลี้ยงดีเปรียบดี
18.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด เรียงไม่เป็นระเบียบ ขนาดไม่สม่ำเสมอ ถือว่าสับสน เล่นต้องระวังอย่าเผลอ
ให้ดูตรงเม็ดที่ขัดออก นอกแถว ถ้าเต่งจะดี ถ้าบอดจะไม่ดี จะเล่นหรือจะออกตัวให้พิจารณาดูตรงนี้ เพราะเกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพดจะเป็นตัวบ่งบอกอันไก่ว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี ชนได้ประมาณกี่อัน เช่น ถ้าเกล็ดเม็ด ๑-๒-๓ ใหญ่ แต่ตรงเม็ดที่ ๔ เล็กบอดและขัดออกมานอกแถว ไก่จะเป็นรองในอันนั้น หรือ แพ้อันนั้น ถ้าเกล็ดเม็ด ๑-๒-๓ เล็กเฉ เม็ด ๔-๕-๖ ใหญ่ ตรงเม็ดที่ ๖ ใหญ่มาก ไก่จะเป็นต่อและอาจชนะในอัน ๖ ให้เริ่มเล่นได้ในอันที่ ๔ ไก่ที่มี เม็ดข้าวสารมากๆดีกว่า มีเกล็ดเม็ดข้าวสารเม็ดข้าวโพดน้อย
19.เกล็ดเสริมเม็ดข้าวสาร คือ เกล็ดที่ขึ้นคู่ด้านข้างเกล็ดเม็ดข้าวสาร ขาทั้งสองข้าง ถ้าเกล็ดเสริมเม็ดข้าวสารมีข้างละสองแถวเรียงตรงกัน ขึ้นไป เม็ดเกล็ดเต่งตึง แบบเม็ดข้าวสาร ถือว่าดี ตีไก่เจ็บมาก ค่อนข้างหายาก
20. เกล็ดสังวาลย์หรือสร้อยสังวาลย์ เป็นเกล็ดด้านข้างอยู่ด้านนอกของแข้งไก่ เรียงตั้งแต่บริเวณเดือนขึ้นไปถึงข้อขาบนทั้งสองข้างขา ถ้า เกล็ดสังวาลย์มีข้างละสามแถวตลอด จะเป็นไก่รักศักดิ์ศรี รักเดิมพันจะไม่ยอมแพ้ไก่ใด ถ้าสองแถวพอใช้ได้ ถ้าแถวเดียวเม็ดเต่งจะเป็นไก่ตีเจ็บปวดดี เกล็ดสังวาลย์จะบ่งบอกความสมบูรณ์ของไก่ ถ้าเกล็ดสีสด ไก่สมบูรณ์ ถ้าเกล็ดสีซีดไก่ไม่สมบูรณ์
21.เกล็ดสังวาลย์เพชร คือ เกล็ดแข้งขึ้นเรียงคู่กับเกล็ดสร้อยสังวาลย์ด้านติดกับบัวหลังลักษณะเกล็ดเหมือนๆเกล็ดบัวหลัง เรียงจากบริเวณเดือย ขึ้นไปถึงข้อขา มีอิทธิฤทธิ์พิษสงร้ายแรง ตีไก่ล้มได้
22.เกล็ดเต๋า เป็นเกล็ดกลุ่มเล็กๆกลุ่มละ ๔,๕,๖ คล้ายจุดบนลูกเต๋า จะอยู่ด้านข้างแข้งใต้เกล็ดสร้อยสังวาลย์และเกล็ดบัวหลังลงมาแถวใต้เดือยถึง ก้อย มีลักษณะคล้ายเกล็ดดาวล้อมเดือน เป็นเกล็ดเสริมความดีของไก่ เป็นไก่พลิกผันไปในทางดีได้ ถ้าเป็นรองก็จะเป็นต่อได้ เรียกว่ารองเล่นได้
23.เกล็ดพวงมาลัย คือ เกล็ดที่ขึ้นล้อมรอบเดือยเหมือนพวงมาลัยล้อมผมจุกเด็กเป็นไก่ใช้ตอแทงจัด
24.เกล็ดเชลยหรือเกล็ดเดิมพันหรือเกล็ดประทัดช้าง เป็นเกล็ดขึ้นต่อจากโคนนิ้วก้อยขึ้นอ้อมเดือยด้านในเรียงขึ้นไปถึงข้อขาบน ถือว่าเป็นไก่รัก เดิมพัน มีเชลยหรือตัวแพ้มาเป็นคู่ชนของมัน ยิ่งตีเดิมพันยิ่งแพงยิ่งดี ได้คู่หมู จะชนะแบบไม่เจ็บตัว เวลาเปรียบให้สังเกตถ้ามันรบเร้าจะจิกตีไก่ ตัวใดหรือไก่ตัวใดรบเร้ามาเปรียบบ่อยๆ ให้เอาตัวนั้นจะชนะได้ง่ายๆ
25.เกล็ดไชบาดาล คือ เกล็ดก้อยด้านหลังแตกทุกเกล็ดทั้งสองข้าง เป็นไก่ตีหักตีชัก ตีไก่แพ้ได้ง่าย

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การวิเคราะห์เชิงไก่ชนแม่สะเรียง จุดเด่น จุดแข็ง

การวิเคราะห์เชิงไก่ชนแม่สะเรียง จุดเด่น จุดแข็ง
จุดเด่นของพม่าแม่สะเรียง ก็คือ แข้งหน้าดี ลำโต ขยัน เจ้าเล่ห์ (แบบหลอกล่อซิ่งซ้ายขวาได้ดี) ออกแข้งได้ทุกจังหวะ นี่คือจุเด่นของพม่าแม่สะเรียง

จุดด้อยของพม่าแม่สะเรียงก็คือ เตี้ยล่ำ ตัวสั้น ความแม่นหรือความคมโดยเฉลี่ยน้อยกว่าพม่าเบอร์ดี ๆ ทั่วไป พม่าแม่สะเรียงออกแข้งแรง ๆ เน้นตีหักตีซัก ตีตายประมาณนั้นครับคือโดนกระเดือกจัง ๆ นิเสร็จครับ เพราะแผลที่เขาชอบคือกระเดือกและบ้องหู แต่จะใช้ตอได้น้อยกว่าพม่าเบอร์ดี ๆ ทั่วไป

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การเลี้ยงไก่พม่าแม่สะเรียงหนุ่ม

การเลี้ยงไก่พม่าแม่สะเรียงหนุ่ม
ให้ดูสภาพความพร้อมของร่างกายเป็นสำคัญอย่ารีบ ได้แค่ไหนแค่นั้น การลงขมิ้นให้ลงที่ หน้าคอ ขา โคนปีกก็พอ ไม่งั้นไก่จะมีความตึงผิว บินได้ไม่ดี การเลี้ยงตามที่ผมบอกไก่จะซ้อมมาได้ประมาณ 10-13 ยก เราตี 4 ยก ถ้าฝีมือพอกันตัวไหนแข็งแรงกว่าน่าจะมีชัย ยาเลี้ยงก็ตามที่ผมได้บอกไปใน คอลัมภ์ยาและเวชภัณฑ์ ถ้าตัวไหนจะชนแพง ก่อนชน 5 วันให้กินโสมผงแบบแคปซูลละลายน้ำทุกวันจนถึงวันชน ไก่จะไม่หอบง่าย น้ำลายจะไม่เหนียว ระบบ หายใจจะดีมาก ผมลองแล้วดีจึงอยากบอกต่อ


วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไก่พม่าแม่สะเรียง มีปากไว้กิน มีเท้าไว้พิฆาตศัตรู

ไก่พม่าแม่สะเรียง 

มีปากไว้กิน มีเท้าไว้พิฆาตศัตรู
อ่านไม่ผิดหรอกครับ กับลีลาของพม่าแม่สะเรียง ที่ดีด ดีด ดีด อย่างเดียว
ไม่ใช้ปากจิก หรือน้อย
ครั้ง ถอย พิฆาตด้วยความแม่น กับรุนแรงของแข็งหน้า จนเป็นที่มาของ
ฉายา ปากมีไว้กิน เท้ามีไว้พิฆาตนั้นเอง ถ้าเป็นภาษาเหนือจะเรียกว่า
อีดอก้านอ่อน คือ พลิ้วไหว
ครับ นิยมาผสมรวมกับม้าล่อ ลูกออกมาจะเทพกว่าเดิม